Abstract:
|
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อเปรียบเทียบปริมาณสารประกอบฟีนอลิกรวม และฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจากเมล็ดและเนื้อของมะม่วงหาวมะนาวโห่โดยใช้ตัวทำละลายเมทานอล เอทานอล เอทิลอะซิเทต และเฮกเซน นำสารสกัดที่ได้มาวิเคราะห์ปริมาณสารประกอบฟีนอลิกรวม โดยวิธี Folin-Ciocalteu colorimetric และทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระด้วยวิธีต่างกัน 3 วิธี คือวิธี DPPH ความสามารถในการรีดิวซ์ และ ความสามารถต้านอนุมูลอิสระรวม ผลของการวิจัย พบว่า สารสกัดหยาบจากเมล็ดที่สกัดด้วยเมทานอลจากผลสุกมีปริมาณสารประกอบฟีนอลิกรวมสูงที่สุด มีค่าเท่ากับ 332.2810.63 มิลลิกรัมสมมูลย์ของกรดแกลลิกต่อกรัมของสารสกัดแห้ง (mg GAE/g dry extract) จากการทดสอบฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระโดยวิธี DPPH เทียบกับสารมาตรฐาน BHT พบว่า สารสกัดเมทานอลจากเมล็ดของผลสุกมีประสิทธิภาพในการกำจัดอนุมูล DPPH (SC50) สูงสุดรองลงมาเป็นสารสกัดเมทานอลจากเมล็ดผลกึ่งสุก มีค่า SC50 เป็น 0.014±0.004 และ 0.018±0.001 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร (มก./มล.) ตามลำดับ โดยสามารถต้านอนุมูลอิสระได้ดีกว่าสารละลายมาตรฐาน BHT ซึ่งมีค่า SC50 เท่ากับ 0.046±0.001 มก./มล. การประเมินความสามารถในการรีดิวซ์ และ ความสามารถต้านอนุมูลอิสระรวม พบว่า สารสกัดเมทานอลจากเมล็ดของผลสุก มีค่าความสามารถในการรีดิวซ์ และความสามารถต้านอนุมูลอิสระรวมระดับสูง มีค่าเท่ากับ 340.57±11.31 mg GAE/g dry extract และ 492.80±7.18 mg ascorcic acid/g dry extract ตามลำดับ เมื่อนำสารสกัดมาทดสอบกับเชื้อแบคทีเรียก่อโรคในมนุษย์ 4 ชนิด คือ Staphylococcus aureus, Escherichia coli, Salmonella typhimurium และ Listeria monocytogenes โดยวิธี Agar well diffusion พบว่า สารสกัดเมทานอล และเอทิลอะซิเทตจากเนื้อผลกึ่งสุก มีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญของเชื้อแบคทีเรียทั้ง 4 ชนิด ได้ดีที่สุด มีค่าความเข้มข้นต่ำสุดที่สามารถยับยั้งการเจริญของเชื้อแบคทีเรีย S. aureus (Minimum inhibition concentration, MIC) เท่ากับ 5 มิลลิกรัมต่อมิลลิลิตร แต่พบว่าสารสกัดจากเฮกเซนไม่มีฤทธิ์ต้านเชื้อแบคทีเรียทุกชนิด |