Title:
|
การใช้ดอกดาวเรืองเหลือทิ้งเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเพิ่มมูลค่า |
Author:
|
นามวงษ์, ศิริลักษณ์; พึ่งสาราญ, ณัฐกมล; คำพันธ์, เสาวณีย์
|
Abstract:
|
แผนงานวิจัย การใช้ดอกดาวเรืองเหลือทิ้งเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดและเพิ่มมูลค่า คือ
การลดปริมาณดอกดาวเรืองเหลือทิ้งในชุมชน โดยการนามาแปรรูปเป็นนวัตกรรมใหม่เพื่อเพิ่มมูลค่า
สร้างผลิตภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติที่มีความเป็นเอกลักษณ์ของท้องถิ่น เพื่อการใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืน
เช่น สร้างวัสดุที่มีคุณสมบัติเร่งปฏิกิริยาการย่อยลายสีย้อมผ้าสังเคราะห์ การผลิตกระดาษกาจัดกลิ่น
และผลิตภัณฑ์ไล่ยุง
โครงการย่อยภายใต้แผนงานวิจัยมีทั้งหมด 3 โครงการ ได้แก่ (1) ผลิตภัณฑ์ไล่ยุงจาก
ดาวเรือง (2) การผลิตวัสดุกาจัดสีย้อมผ้าที่สามารถใช้ซ้าได้ (3) การผลิตกระดาษกาจัดกลิ่นจากดอก
ดาวเรือง การศึกษาวิจัยครั้งนี้มีระยะเวลา 2 ปี ดาเนินการวิจัยในระดับห้องปฏิบัติการดาเนินการที่
มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
ผลการดาเนินงาน สามารถผลิตผลิตภัณฑ์ 3 ชนิด คือ ผลิตภัณฑ์ไล่ยุงจากดาวเรือง กระดาษ
สาผสมดาวเรืองและผงถ่าน และ ตัวเร่งปฏิกิริยาชีวภาพที่สามารถใช้ซ้าได้ ผลิตภัณฑ์ชนิดแรก คือ
ผลิตภัณฑ์ไล่ยุงจากดาวเรือง ใช้สารสกัดชั้นเอทานอล ซึ่งสามารถไล่ยุงได้นาน 2 ชั่วโมง ผลิตผลิตภัณฑ์
ไล่ยุงจากดาวเรืองได้นามาแสดงในงานสุนันทาวิชาการ ผลิตภัณฑ์ที่สอง คือ กระดาษกาจัดกลิ่นจาก
ดอกเรือง ปีที่ 1 ได้กระดาษกกผสมดาวเรือง (กก ต่อ ดาวเรือง, 70 : 30) ค่าความขาวสว่าง (L*)
90.36 ความเรียบ 2.20 วินาที-เบคค์ (s-BEKK) ค่าดัชนีต้านแรงฉีกขาด 9.18 นิวตัน–ตารางเมตร ต่อ
กิโลกรัม (N-m2 /Kg) ปีที่ 2 ได้กระดาษสาผสมดาวเรืองและผงถ่านกัมมันต์ โดยสาทาให้ผงถ่านกัม
มันต์ติดที่เยื่อกระดาษ อัตราส่วนสากับดาวเรือง เท่ากับ 70:30 นาเยื่อกระดาษ 300 กรัม ผสมกับผง
ถ่านกัมมันต์ 100 กรัม ได้กระดาษมีสีดา ผลิตภัณฑ์ที่สาม คือ ตัวเร่งปฏิกิริยาชีวภาพที่สามารถใช้ซ้า
ได้ ปีที่ 1 ได้พบแบคทีเรียชอบเค็มสายพันธุ์ที่สามารถฟอกจางสีน้าเงินได้ คือ C15-2 และ SR5-3aw
นาเซลล์ไปตรึงกับ 1 เปอร์เซนต์ อัลจิเนต และ 2.5 เปอร์เซนต์ เจลาติน โดยเซลล์ตรึงภาพสามารถใช้
ซ้าได้ 4 รอบ ที่ pH 7.2 และ อุณหภูมิ 37 องศาเซลเซียส ปีที่ 2 พัฒนาตัวเร่งปฏิกิริยาชีวภาพเพื่อลด
การรั่วของเซลล์ออกจากเม็ดบีด โดยใช้ เจลาติน : อัลจิเนต : ไคโตซาน เท่ากับ 1:1:1 การนาเซลล์ตรึง
รูปกลับมาใช้ซ้าสาหรับการฟอกจางสีน้าเงิน (Cationic blue 41) ได้ 3 รอบ และการฟอกจางสีแดง
(Red 46) เฉพาะเซลล์ตรึงรูปของ C15-2 สามารถนากลับมาใช้ได้ 4 ครั้ง และสร้างตัวเร่งปฏิกิริยาเคมี
(Fe/P) โดยใช้สีย้อมผ้าที่ความเข้มข้นเริ่มต้นที่ 20 ppm พบว่าสภาวะที่เหมาะสมในการย่อยสลายสี
ย้อม cationic blue 41 ด้วยตัวเร่ง Fe/P คือ ความเข้มข้นเริ่มต้นสีย้อม 20 ppm เติมไฮโดรเจนเปอร์
ออกไซด์ 1 mL อุณหภูมิ 50 C ภายในเวลา 180 นาที การใช้ตัวเร่งปฏิกิริยาเคมีมีแนวโน้มจะ
สามารถนาไปใช้ได้ในระบบบาบัดน้าเสียที่มีสีย้อมเป็นองค์ประกอบได้ |
Description:
|
งานวิจัยงบประมาณรายได้มหาวิทยาลัย ปีงบประมาณ
2560 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา |
URI:
|
http://hdl.handle.net/123456789/477
|
Date:
|
2018-09-18 |