การนําหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการบริหาร องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งแล้ง อำเภอลอง จังหวัดแพร่

Abstract

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาถึงระดับการนําหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการบริหารองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งแล้ง อำเภอลอง จังหวัดแพร่ 2) เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างปัจจัยส่วนบุคคลกับการนําหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการบริหารองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งแล้ง อำเภอลอง จังหวัดแพร่ การวิจัยครั้งนี้เป็นการวิจัยเชิงปริมาณ กลุ่มประชากรที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้คือ ข้าราชการพนักงานประจำและพนักงานชั่วคราวที่ปฏิบัติหน้าที่ในองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งแล้ง รวมทั้งสิ้นจำนวน 42 คน เครื่องมือที่ใช้สำหรับการเก็บรวบรวมข้อมูล คือ แบบสอบถาม วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้สถิติเชิงพรรณนาและเชิงอนุมาน ผลการศึกษาพบว่า 1) ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่เป็นเพศหญิง จำนวน 26 คน คิดเป็นร้อยละ 57.1 โดยส่วนใหญ่มีอายุระหว่าง 41-60 ปี คิดเป็นร้อยละ 57.1 มีระดับการศึกษามัธยมศึกษาตอนปลาย/เทียบเท่า คิดเป็นร้อยละ 35.7 รายได้เฉลี่ยต่อเดือน 5,000-10,000 บาท คิดเป็นร้อยละ 33.3 มีอายุการทำงาน 5-10 ปี คิดเป็นร้อยละ 42.9 และมีสถานภาพเป็นลูกจ้างชั่วคราวคิดเป็นร้อยละ 35.7 2) ในภาพรวมของการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ ข้าราชการ พนักงานประจำและพนักงานชั่วคราวที่ปฏิบัติหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งแล้ง ได้นำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง มาประยุกต์ใช้อยู่ในระดับมาก เมื่อพิจารณาเป็นรายด้าน พบว่า ด้านเงื่อนไขคุณธรรม และด้านความมีเหตุผล อยู่ในระดับมากที่สุด และด้านความพอประมาณ ด้านการมีภูมิคุ้มกัน และด้านเงื่อนไขความรู้ อยู่ในระดับมาก ตามลำดับ 3) การเปรียบเทียบระหว่างการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการบริหาร องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งแล้งกับปัจจัยส่วนบุคคลของข้าราชการ พนักงานประจำและพนักงานชั่วคราว ที่ปฏิบัติหน้าที่องค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งแล้ง สามารถสรุปผลการทดสอบได้ดังนี้ การนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการบริหารองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งแล้งไม่แตกต่างกันในปัจจัย ส่วนบุคคล ได้แก่ เพศ อายุ ระดับการศึกษา รายได้เฉลี่ยต่อเดือน อายุการทำงาน ส่วนการนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในการบริหารองค์การบริหารส่วนตำบลทุ่งแล้งแตกต่างกันในปัจจัยส่วนบุคคล ได้แก่ สถานภาพ