dc.contributor.author |
ภูคำชะโนด, ภูสิทธ์ |
|
dc.date.accessioned |
2020-11-16T12:06:51Z |
|
dc.date.available |
2020-11-16T12:06:51Z |
|
dc.date.issued |
2020-11-16 |
|
dc.identifier.uri |
http://hdl.handle.net/123456789/1956 |
|
dc.description.abstract |
การวิจัยในครั้งนี้กำหนดวัตถุประสงค์เพื่อสำรวจการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการพัฒนาพื้นที่
กิจกรรมทางการเมืองและกิจกรรมส่วนรวมของหน่วยงานรัฐที่จัดให้กับประชาชน พร้อมทั้งมี
การศึกษาทัศนคติของประชาชนในการดำเนินงานของหน่วยงานรัฐและภาคประชาชนตามหลักธรร
มาภิบาล: ความโปร่งใส และการมีส่วนร่วมประชาชนในทุกชุมชน และวิเคราะห์ชุมชนและคัดเลือก
ชุมชนต้นแบบพร้อมกับพัฒนาชุมชนวิถีประชาธิปไตยตามหลักธรรมาภิบาล: หลักความโปร่งใส่ และ
หลักการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยทำการเก็บข้อมูลจากประชาชนใน 46 ชุมชน จำนวน 400
กลุ่มตัวอย่างใขเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร และอาศัยอยู่นอกชุมชน จำนวน 60 กลุ่มตัวอย่าง รวม
ทั้งสิ้นกลุ่มตัวอย่างในการวิเคราะห์ 460 คน รวมถึงทำการสัมภาษณ์ผู้นำชุมชน จำนวน 46 คน
พบผลการวิจัยว่า การมีส่วนร่วมของประชาชนในกิจกรรมพัฒนาเชิงพื้นที่และกิจกรรมส่วนรวม
ของหน่วยงานรัฐที่จัดให้กับประชาชนโดยภาพรวมอยู่ในระดับปานกลางส่วนด้านการวิเคราะห์
วางแผนในการพัฒนาพื้นที่ประชาชนมีส่วนร่วมน้อยที่สุด ในประเด็นการมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ทางการเมืองในช่วย 5 ปีที่ผ่านมาประชาชนคิดว่าตนเองมีสิทธิเสรีภาพในการดำรงชีวิตประจำวัน
อย่างเต็มเปี่ยม แต่ขาดการมีสิทธิเสรีภาพในการรวมกลุ่มกันซึ่งมีการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มจะมีทหาร
และเจ้าหน้ารัฐเข้ามาเฝ้าสังเกตการณ์ร่วมด้วยเสมอ ทั้งนี้ประชาชนมีทัศนคติต่อกิจกรรมทางการเมือง
และวิถีทางการเมืองการปกครองประชาธิปไตยแบบไทยอย่างชัดเจนในมิติความจริงที่ว่าประชาชนให้
ความสำคัญกับการมีความเชื่อมั่น และชื่นชมในระบอบการปกครองที่มีสถาบันพระมหากษัตริย์เป็น
สถาบันสูงสุดที่จะสามารถแก้ปัญหาของชาติให้มั่นคงยั่งยืน และมีความเหมาะสมต่อการปกครองใน
ประเทศไทย อยู่ในระดับจริงหรือระดับมากที่มีค่าเฉลี่ยสูงสุด รองลงมามีความคิดเห็นว่า การ
ช่วยเหลือเกื้อกูลกันหรือระบบอุปถัมภ์นั้นยังเป็นพฤติกรรมที่ปฏิบัติกันอยู่ในสังคมไทย อยู่ในระดับจริง
เช่นเดียวกัน พร้อมกันนั้นประชาชนเชื่อมั่นในหลักธรรมาภิบาลด้านความโปร่งใสที่สุดในเรื่องที่ว่าเมื่อ
มีกิจกรรมที่ขอความร่วมมือจากองค์กรภาคเอกชน หรือภาครัฐ วิชาการจากภายนอก ผู้นำและคณะกรรมการชุมชนได้มีการประกาศเปิดเผยข้อมูลให้ประชาชนได้รับรู้และเปิดโอกาสให้เข้าร่วมอย่าง
ทั่วถึงกันในชุมชน ส่วนหลักธรรมาภิบาล: การมีส่วนร่วม ประชาชนใน 46 ชุมชนพบว่าได้มีการเปิด
โอกาสให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมืองการบริหาร และการจัดสรรทรัพยากรของชุมชนเกี่ยวกับ
วิถีชีวิตของชุมชนโดยภาพรวมมีส่วนร่วมอยู่ระดับปานกลาง แต่กลับพบว่าระดับการมีส่วนร่วมมาก
คือประชาชนมีความพร้อมไปเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นในปี พ.ศ. 2562 ด้วยการแสดงออกเป็น
ประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วมของประชาชนอย่างแท้จริงที่สุด นอกจากนี้ประชาชนได้คัดเลือก “ชุมชน
วัดสวัสดิ์วารีสีมาราม” เป็นชุมชนต้นแบบประชาธิปไตยของเขตดุสิต กรุงเทพมหานคร รวมถึงวิถี-วิธี
ประชาธิปไตย ประชาชนมีความเห็นว่า วิถีประชาธิปไตยต้องสะท้อนความเท่าเทียมกันในสังคม
ประชาธิปไตย ถือว่าทุกคนที่เกิดมาจะมีความเท่าเทียมกันในฐานะการเป็นประชากรของรัฐ ได้แก่ มี
สิทธิเสรีภาพ มีหน้าที่เสมอภาคกัน ไม่มีการแบ่งชนชั้นหรือการเลือกปฏิบัติ ควรดำรงชีวิตอยู่ร่วมกัน
อย่างสันติ ไม่ข่มเหงรังแกคนที่อ่อนแอกว่า ส่วนวิธีประชาธิปไตยโดยการแสดงออกทางกิจกรรม
ทางการเมือง “การมีส่วนร่วมของประชาชน” จึงเป็นวิธีสำคัญของประชาชนในชุมชนเมืองเป็นปกติ
วิสัย ชี้ให้เห็นว่าวิธีประชาธิปไตยจริงแท้ต้องให้ “อิสระในการตัดสินใจ ไม่มีการบังคับในการใช้สิทธิ์”
ในส่วนปัจจัยพื้นฐานบุคคลที่ส่งผลต่อกิจกรรมการพัฒนาพื้นที่ ได้แก่ประชาชนที่เป็นผู้ชายมีส่วนร่วม
ในกิจกรรมการพัฒนาพื้นที่ในเขตดุสิตมากกว่าเพศหญิง และประชาชนที่สังกัดสมาชิกกลุ่มทางสังคม
มีส่วนร่วมในกิจกรรมการพัฒนาพื้นที่เขตดุสิตมากกว่าผู้ที่ไม่สังกัดกลุ่มทางสังคมใด ๆ เลย รวมถึง
ประชาชนที่มีวิถีทางการเมืองการปกครองประชาธิปไตยแบบไทยมีความสัมพันธ์เชิงบวกอยู่ระดับ
ระดับปานกลางค่อนไปสูง (r = 0.478**) กับการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการพัฒนาพื้นที่เขตดุสิต
กรุงเทพมหานคร |
th_TH |
dc.description.sponsorship |
ทุนอุดหนุนจากมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
ปีงบประมาณ 2562 (งบประมาณแผ่นดิน) |
th_TH |
dc.language.iso |
th |
th_TH |
dc.subject |
หลักความโปร่งใส |
th_TH |
dc.subject |
พื้นที่เขตดุสิต |
th_TH |
dc.subject |
กรุงเทพมหานคร |
th_TH |
dc.title |
การพัฒนาชุมชนวิถีประชาธิปไตยตามหลักธรรมาภิบาล: หลักความโปร่งใส และหลักการมีส่วนร่วมของประชาชนในพื้นที่เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร |
th_TH |
dc.type |
Article |
th_TH |