Title:
|
การพัฒนาแท่งเชื้อเพลิงชีวมวลจากวัสดุเหลือทิ้งของมะพร้าว |
Author:
|
แสนศิริพันธ์, ดร.ศันสนีย์
|
Abstract:
|
งานวิจัยนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาเชื้อเพลิงชีวมวลอัดแท่งและอัดเม็ดจากวัสดุเหลือทิ้งจาก
มะพร้าว ได้แก่ เปลือกมะพร้าว กากมะพร้าวและขุยมะพร้าว โดยการพัฒนาเชื้อเพลิงชีวมวลแบบอัด
แท่งโดยใช้เครื่องอัดร้อนที่อุณหภูมิ 300C แล้ววิเคราะห์คุณสมบัติทางเชื้อเพลิง ได้แก่ ค่าความร้อน
ความชื้น ปริมาณสารที่ระเหยได้ เถ้าและคาร์บอนคงตัว รวมทั้งคุณสมบัติทางกายภาพ ได้แก่ ความ
หนาแน่น ผลการทดลองพบว่า เปลือกมะพร้าวสามารถนำมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด โดยให้ค่า
ความร้อนสูง โดยเฉพาะแท่งเชื้อเพลิงจากเปลือกมะพร้าวน้ำหอม โดยให้ค่าความร้อนสูงถึง 4,882 cal/g
และเมื่อเติมน้ำมันพืชเป็นตัวประสาน ทำให้ได้ปริมาณสารที่ระเหยได้ลดลง นอกจากนี้ เมื่อเอาเปลือก
มะพร้าวแกงผสมกับกากมะพร้าวให้ค่าความร้อนสูงถึง 5,493 cal/g เปลือกมะพร้าวผสมกับขุยมะพร้าว
ทำให้คาร์บอนคงตัวเพิ่มขึ้น
นอกจากนี้ ได้เลือกใช้ขุยมะพร้าวมาเป็นวัสดุทดสอบในการทำเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด โดยใช้
เครื่องอัดเม็ดขึ้นรูปแบบ Flat die pellet mill ให้ได้ชีวมวลมะพร้าวอัดเม็ดขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6
มิลลิเมตรแล้วทำการศึกษาคุณสมบัติของเชื้อเพลิงขุยมะพร้าวอัดเม็ด โดยทำการทดสอบค่าความชื้น
ความหนาแน่นรวม เส้นผ่านศูนย์กลาง ดัชนีความคงทน ฝุ่น ค่าความร้อน ปริมาณเถ้า ส่วนประกอบของ
คลอไรด์ สารซัลเฟอร์และสารไนโตรเจนเปรียบเทียบกับเกณฑ์มาตรฐานชีวมวลอัดเม็ดของประเทศไทย
ขุยมะพร้าวจึงมีคุณลักษณะที่เหมาะสมสำหรับนำมาผลิตเป็นเชื้อเพลิงชีวมวลอัดเม็ด เนื่องจากมี
ค่าความร้อนและความหนาแน่นสูง แต่มีค่าความชื้น ปริมาณขี้เถ้า ซัลเฟอร์และไนโตรเจนในปริมาณที่
ต่ำ ซึ่งขุยมะพร้าวอัดเม็ดที่ทดสอบมีคุณสมบัติที่ดี ผ่านตามเกณฑ์มาตรฐานชีวมวลอัดเม็ดของประเทศ
ไทย โดยมีค่าความหนาแน่นเท่ากับ 770 กิโลกรัมต่อลูกบาศก์เมตร มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 6.06
มิลลิเมตร ปริมาณฝุ่นเพียง 0.47% และความชื้นประมาณ 4.54% ปริมาณขี้เถ้าประมาณ 6.37% มี
ปริมาณไนโตรเจน 0.23% ของน้ำหนักและไม่พบส่วนประกอบของสารกำมะถัน ขุยมะพร้าวอัดเม็ดมีค่า
ความร้อนประมาณ 4,320 กิโลแคลอรี่ต่อกิโลกรัม ซึ่งสูงกว่าเกณฑ์มาตรฐานชีวมวลอัดเม็ด อย่างไรก็
ตามพบว่า มีปริมาณของคลอไรด์ (0.43%) ซึ่งยังไม่ผ่านเกณฑ์ |
Description:
|
งานวิจัยงบประมาณแผ่นดิน ปีงบประมาณ 2559 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา |
URI:
|
http://hdl.handle.net/123456789/672
|
Date:
|
2018-09-25 |