แนวทางการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการสื่อสารในองค์กรธุรกิจขนาดกลาง ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

Abstract

การวิจัยเรื่อง แนวทางการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการสื่อสารในองค์กรธุรกิจขนาดกลางในพื้นที่กรุงเทพมหานคร มีวัตถุประสงค์เพื่อวิเคราะห์หาแนวทางในการพัฒนาการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการสื่อสารขององค์กรธุรกิจอย่างเหมาะสม ตอบสนองต่อความต้องการขององค์กรธุรกิจ ผู้วิจัยใช้รูปแบบการวิจัยเชิงคุณภาพ กลุ่มตัวอย่างที่ใช้สำหรับการวิจัยครั้งนี้ คือ บุคคลทั่วไปซึ่งทำงานเป็นพนักงานขององค์กรธุรกิจขนาดกลางในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 400 คน โดยผู้วิจัยใช้แบบสอบถาม และสถิติในการวิเคราะห์ข้อมูลได้แก่ ค่าร้อยละ ค่าเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่เป็นเพศหญิงร้อยละ 60.5 เป็นเพศหญิงร้อยละ 39.5 ส่วนใหญ่อยู่ในช่วง อายุ 25-34 ปี มีการศึกษาระดับปริญญาตรีร้อยละ 46.25 และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย/อนุปริญญา ร้อยละ 30.00 ส่วนใหญ่เป็นพนักงานบริษัท ร้อยละ 55.50 ถัดมารับจ้าง-คนงาน ร้อยละ 25.75 และประกอบธุรกิจส่วนตัว ร้อยละ 10.50 ตามลำดับ ส่วนใหญ่มีรายได้อยู่ในช่วง 10,000-20,000 บาทต่อเดือน ร้อยละ 41.75 ถัดมา ได้แก่ กลุ่มตัวอย่างที่มีรายได้อยู่ในช่วง 20,001-30,000 บาทต่อเดือน ร้อยละ 20.50 ตามลำดับ ด้านประเภทขององค์กรธุรกิจ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ประกอบธุรกิจด้านงานบริการมากที่สุด ร้อยละ 44.50 ถัดมาได้แก่ กิจการส่วนตัว อุตสาหกรรม ธนาคาร เกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร และเทคโนโลยี ตามลำดับ นอกจากนี้ผู้วิจัยได้ทำการสัมภาษณ์ผู้บริหารองค์กรหรือนักคอมพิวเตอร์ในองค์กรธุรกิจขนาดกลางในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 10 ราย จากผลการศึกษารูปแบบการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการสื่อสาร พบว่า มีการใช้โทรศัพท์มากที่สุด ถัดมาได้แก่ Line E-mail Facebook เว็บไซต์ขององค์กร การใช้ระบบเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ อินทราเน็ต E-learning Twitter และ Timeline ตามลำดับ วัตถุประสงค์ของการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการสื่อสาร พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีวัตถุประสงค์เพื่อการรับแจ้งข้อมูลข่าวสารขององค์กรมากที่สุด ถัดมาได้แก่ เพื่อติดตามงาน การติดต่อประสานงานกับบุคลากรภายในองค์กร การนัดประชุม การทำงานเป็นทีม/กลุ่มงาน การดูข้อมูลรายงาน การติดต่อประสานงานกับภายนอกองค์กร และการดำเนินงานโครงการขององค์กร ตามลำดับ เหตุผลที่กลุ่มตัวอย่างใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการสื่อสารขององค์กร พบว่า กลุ่มตัวอย่างคำนึงถึงปัจจัยต่างๆ ในการเลือกใช้เทคโนโลยีสารสนเทศในระดับมาก ได้แก่ ความทันสมัย ความสะดวก รวดเร็ว ทันต่อเวลา การประหยัดค่าใช้จ่าย ความน่าเชื่อถือของข้อมูล และความสอดคล้องกับความต้องการ ตามลำดับ กลุ่มตัวอย่างมีปัญหาสำหรับการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการสื่อสารขององค์กรในระดับปานกลาง ในด้าน ประหยัดค่าใช้จ่าย ความน่าเชื่อถือของข้อมูล ความถูกต้องแม่นยำ และความสะดวก รวดเร็ว ทันต่อเวลา อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างมีความพึงพอใจต่อการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการ 2 สื่อสารในระดับมาก โดยคำนึงถึงปัจจัยด้าน ความทันสมัย สะดวกในการเข้าถึงข้อมูล ความสะดวกรวดเร็ว ทันต่อเวลา การใช้งานง่าย เข้าใจง่าย ประหยัดค่าใช้จ่าย ความถูกต้องแม่นยำ ตามลำดับ ผลการศึกษาชี้ให้เห็นว่า แนวทางการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการสื่อสารในองค์กรธุรกิจขนาดกลาง ได้แก่ 1). องค์กรธุรกิจควรจัดสรรงบประมาณสำหรับการพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการสื่อสารขององค์กรทุกภาคส่วน อย่างเพียงพอ 2). องค์กรธุรกิจควรปรับปรุงระบบโครงสร้างพื้นฐาน ด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและระบบเครือข่ายคอมพิวเตอร์ที่มีประสิทธิภาพ รวมถึง ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ ระบบฐานข้อมูล เป็นต้น สำหรับการพัฒนาระบบการสื่อสารขององค์กร 3). องค์กรธุรกิจควรพัฒนาบุคลากรขององค์กรให้มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ ด้านการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศสำหรับการสื่อสาร เพื่อรองรับความเจริญเติบโตขององค์กรในอนาคต 4). องค์กรธุรกิจควรพัฒนาให้มีระบบการรักษาความปลอดภัยที่เพียงพอ